::: กรรมฐาน ณ บ้านหลังสุดท้าย :::
::: กรรมฐาน ณ บ้านหลังสุดท้าย :::
ในวัยปูนนี้ ส่วนตัวแล้ว ผมเห็นว่า
การเข้าถึง "ความจริง" ของชีวิต
คือความสำเร็จสูงสุดของการมีชีวิตอยู่
ไม่ว่าคุณในฐานะ เพศ หรือสภาวะใดๆ ก็ตาม
.
และอีกสิ่งหนึ่ง ที่ยิ่งใหญ่ ไม่มากไม่น้อยไปกว่า
ก็คือ การค้นพบว่า ในเนื้อแท้ของความจริง
หาใช่สิ่งที่หยาบแห้ง จืดชืด วังเวง ไร้ชีวิต
อย่างที่ ผู้รู้คิดหลายสำนักเคยชี้เป้าไว้
.
เพราะในเนื้อแท้ของความจริง ...
สิ่งที่ผม(เริ่ม)สัมผัสได้ ผมพบว่า
มัน คือ "ความรัก"
.
... เป็นความรักตัวแท้...
เป็นอาการ เป็นลักษณะแท้ๆ แห่ง "ความรัก"
.
คือ การดำรงอยู่เพื่อผู้อื่น
ซึ่งนั่น ก็คือ เป้าหมายแห่งการดำรงอยู่
...เพื่อตัวของมันเอง...
.
เพราะ ความจริง คือ ไม่เคยมีสิ่งใดตั้งอยู่โดดๆ เลย
มันล้วนอิงอาศัย งอกเงย งอกงาม
มาจาก สิ่งใดสิ่งหนึ่งมาแล้วทั้งสิ้น...
รวมทั้งชีวิตผม และชีวิตของเราทั้งหมดก็เช่นกัน...
.
ณ ห้วงลมหายใจนั้น...
เราจะ ศิโรราบ ต่อการรับรู้และยอมรับว่า...
ความรัก คือ สิ่งที่ถักทอความเป็นทั้งหมดของเรา
และความเป็นทั้งหมด ในความเป็นหนึ่ง...นั้น
.
ณ จุดนั้น เราจะรู้สึก "ขอบคุณ" ในความกรุณา
ในมหากรุณาแห่งห้วงมหณรรพ
ที่ได้ใช้เวลาชั่วกัปล์ชั่วกาล ในการถักทอ
ร้อยประสาน ทุกสิ่งที่อย่างจนเป็นเอกภพ
และเปิดช่องเล็กเราทุกคน
สามารถงอกเงยออกมาจากมหาจักรวาล
เป็น "จิตรับรู้" อันเป็นฐานที่ตั้งแห่งมายาของตัวตน
รวมทั้งความเป็น "กระผม" ผู้พิมพ์ตัวอักษรเหล่านี้อยู่...
.
หากปราศจากสรรพสิ่งทั้งหมด
ย่อมไม่มีแม้สิ่งที่เล็กน้อยที่สุด
และสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ก็ล้วนก่อร่างสร้างขึ้น
จากสิ่งที่เล็กจนแทบหาความสำคัญไม่ได้...
.
ไม่มีสิ่งใดเลยที่เป็นโมฆะ...
เพราะทั้งหมด ถูกร้อยเรียง
ด้วยพลังลึกลับอันน่าพิศวง...
ซึ่งไม่รู้จะเรียกมันว่าอะไร...
กระนั้น ณ บรรทัดนี้ ผมขอเรียกมัน
ไปพลางๆ ว่า "ความรัก" ก็แล้วกัน...
.
.
ขอ "ความรัก" จงเป็นพลังที่ขับเคลื่อน
ทุกหัวใจที่กำลังอ่าน ณ บรรทัดนี้อยู่...
ขอความ "ตื่นรู้" จงเป็นหีบสมบัติ
ที่ถูกเปิดขึ้นแล้ว...ในใจคนทุกคน
.