::: กรรมฐาน ณ บ้านหลังสุดท้าย :::
::: กรรมฐาน ณ บ้านหลังสุดท้าย :::
about
pong
tarakorn
kamolprempiyakul
ธรากร กมลเปรมปิยะกุล (พงศ์)
Awakening Navigator
Wake Up EXP
Creative Director
PEACE - Creative for Human Value
โครงการ We Oneness และ มูลนิธิสหธรรมมิกชน
Founder
Awakening Creative Co., Ltd.
เกิดในเดือนกันยายน 2515 ชายไทยเชื้อสายจีน เป็นพ่อบ้านธรรมดา ๆ ภรรยาหนึ่ง ลูกสอง เรียนจบบริหารธุรกิจสาขาการตลาด และเคยมุ่งมั่นทำงานในวงการโฆษณากว่า 14 ปี ได้รางวัลต่าง ๆ มาบ้างตามสมควร
จนวันหนึ่งได้พบว่า สารสาระสำคัญที่น่าสื่อสารที่สุดในโลกใบนี้ คือ ธรรมะหรือความจริง เพื่อให้ผู้รับสารได้เข้าใจถึงคุณค่าและความหมายของการเกิดมาเป็นมนุษย์
และคงด้วยเพราะความปรารถนาเช่นนี้ ธรรมะจึงจัดสรรให้ออกจากวงการโฆษณา ได้มาเป็นผู้บริหารองค์กรสร้างสรรค์เพื่อสังคม iCARE โดย MQDC เป็นเวลา 7 ปี
มาทำงานเพื่อสร้างกิจกรรมและแคมเปญสื่อสารสร้างแรงบันดาลใจเพื่อสังคม รวมทั้งโครงการ New Heart New World โลกเปลี่ยนไป เมื่อใจเปลี่ยนแปลง และได้ทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรสถาบันอาศรมศิลป์อีก 1 เศษ จากนั้น จึงได้เริ่มออกมาทำงานสื่อสารเพื่อการเข้าใจความจริงของตนเองและการตื่นรู้
จุดเปลี่ยนของชีวิต :
ผมเริ่มสนใจธรรมะอย่างจริงจังเมื่อปี 2548 ในขณะนั้นเกิดการตระหนักในชีวิตตัวเองว่า แม้ปกติจะไม่ใช่คนอารมณ์ร้าย แต่หากขาดสติถึงจุดเดือดเมื่อไหร่ จะกลายเป็นคนที่มีโทสะแรงมาก ประกอบช่วงนั้นประสบกับอุปสรรคปัญหาในการทำงานและการดำเนินชีวิต จึงตัดสินใจลาอุปสมบทครั้งแรกในเดือนมีนาคมปีนั้น ขณะที่ภรรยากำลังตั้งครรภ์ลูกสาวคนแรกได้ 7 เดือน ณ วัดชลประทานรังสฤษดิ์ การมาเกิดของลูกในครั้งนี้เป็นมหากุศล ช่วยดลใจให้ตัดสินใจบวช
จากนั้นก็ได้เริ่มสนใจและศึกษาธรรมะอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากธรรมะของพระพุทธเจ้า และพระอริยะในสายเถรวาท โดยมีครูบาอาจารย์ที่นับถือท่านเป็นดั่งพ่อแม่ครูอาจารย์ในชีวิต ได้แก่ หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ท่านพุทธทาส อินทปญฺโญ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ หลวงพ่อคําเขียน-
สุวณฺโณ ฯลฯ
ด้วยความที่เป็นคนโฆษณา ความรู้เรื่องธรรมะหรือความจริงจึงกลายเป็นดั่งบรีฟโจทย์สื่อสารสำคัญของชีวิต ทำให้ได้อ่าน ฟัง และค้นคว้าอยู่ในความสนใจมาโดยตลอด ประกอบกับมีสนใจใคร่รู้อย่างมากที่จะเรียนรู้ “สัจธรรมความจริง” ที่ศาสดาอื่นหรือผู้รู้ท่านอื่นกล่าวไว้ จึงกลายเป็นงานอดิเรกหลักของชีวิตที่จะศึกษาทุกๆ ศาสนา
และความเชื่อ รวมทั้งผู้รู้แจ้งที่อยู่นอกเหนือศาสนาทั่วไปอีกด้วย ทั้งจากหนังสือนับร้อยปกบ้าง จากคลิปเสียง ตลอดจนคลิป YouTube มากมายที่ได้ศึกษาตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมา
แนวทางปฏิบัติ :
ปฏิบัติธรรมในแนวทางสติปัฏฐาน 4 และอาศัยการเจริญสติตามดูรู้กายรู้จิตตามความเป็นจริง ตามคำสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช จนเห็นกายเห็นใจทำงาน สุขบ้างทุกข์บ้าง เรียกว่า พอได้พบเห็นและรู้ถึงความไม่เที่ยงของกายใจ ทำให้ปัจจุบันเน้นการปฏิบัติเจริญสติ ระลึกรู้ในชีวิตประจำวัน มากกว่าการปฏิบัติในรูปแบบ
ปัจจุบันได้ผ่านการอุปสมบทครั้งที่ 2 เมื่อเดือนตุลาคม 2558 ณ วัดคลองปลัดเปรียง บางนา ระหว่างการทำงานต้นฉบับ หัวใจตื่นรู้ ซึ่งเป็นหนังสือเล่มที่ 2 ในชีวิต (เล่มแรกคือ เรื่องธรรมโดน สำนักพิมพ์ธรรมดา) และเข้าคอร์สวิปัสสนา 10 วันของท่านโกเอนก้า ในเดือนเมษายน 2561
เขียนหนังสือ หัวใจตื่นรู้ :
ในช่วงการอุปสมบทครั้งที่ 2 เป็นในช่วงระหว่างการทำงานต้นฉบับ หัวใจตื่นรู้ ซึ่งเป็นหนังสือเล่มที่ 2 ในชีวิต (เล่มแรกคือ เรื่องธรรมโดน สำนักพิมพ์ธรรมดา) หนังสือเล่มนี้เป็นการทำงานร่วมกันกับ ณัฐนภ ตระกลธนภาส นักเขียนกัลยาณมิตรรุ่นน้องผู้ใฝ่ในธรรม และ ศรีสุภา ส่งแสงขจร บรรณาธิการคนเก่งจิตใจดี ผู้กำลังเติบโตในธรรมอย่างรวดเร็ว ซึ่งนอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ New Heart New World 3 แล้ว เป็นผลงานจากกำลังสติปัญญาจากการใช้ชีวิตและหัวใจ ในการกลั่นกรองเรียบเรียงเนื้อหาสาระจากความรู้และภูมิธรรมเท่าที่มี พร้อมอาศัยการเรียบเรียงอ้างอิงถ้อยธรรมจากผู้รู้ต่างๆ จำนวนมาก
โดยตั้งวัตถุประสงค์ในการเขียนไว้ว่า “หัวใจตื่นรู้” คือ หนังสือเพื่อการรู้ตื่นเล่มแรกของไทยที่เปิดเผยเส้นทาง 7 ลำดับขั้นของการตื่นรู้ เพื่อสื่อสารสำคัญว่า “หัวใจของมนุษย์ที่แท้” เริ่มที่เห็นความจริงของกายใจ พ้นจากความเห็นผิดและความยึดมั่นในความเป็นตัวตนของตน ด้วยความเชื่อและความหวังว่า สารสาระเกี่ยวกับการตื่นรู้ในหนังสือเล่มนี้ จะสามารถสร้างประโยชน์ให้คนไทยได้เกิดแรงบันดาลใจและความสนใจในการเรียนรู้ปฏิบัติ เพื่อค้นพบความจริงในกายในใจของตน และเพื่อเป็นกัลยาณมิตรร่วมทางแก่ผู้อ่านทุกรุ่นทุกวัยในการเดินทางเพื่อค้นพบการตื่นรู้ร่วมกัน
Moment เห็นธรรม :
จนกระทั่ง 3 ปีที่ผ่านมา ผมได้ตระหนักรู้ว่า “ได้พบใจที่แท้” จิตเดิม หรือธรรมชาติแห่งพุทธะ ผ่านการ “รู้…รู้สักว่ารู้” รู้เพียงรู้ แต่ไม่มีผู้รู้ เหลือเพียงอาการรู้ Awareness - Pure Consciousness ผมพบว่าตัวตนที่ยึดถือมาโดยตลอดนั้น ถูกสร้างประกอบขึ้นด้วยความคิดปรุงแต่ง และไม่มีอะไรหรือสิ่งใดเลยที่นับเป็นตัวตนของเราได้ เพราะล้วนเป็นสิ่งที่ถูกรับรู้โดยจิต ดังนั้น ตัวจิตรู้เองจึงวางตัวตน และยอมศิโรราบในความไม่เป็นตัวเป็นตนใด ๆ เพราะไม่มีสิ่งใด ๆ ที่จะนับเป็นตัวผู้รู้ได้เลย
(อ่านรายละเอียดได้ใน)
บวชครั้งที่สอง เจอใจที่แท้จริง
ปัจจุบัน :
เพื่อต่อยอดการทำงานสื่อสารเพื่อการตื่นรู้ ในปี 2561 จึงได้ริเริ่มขยายงานมาสู่การสร้างกระบวนการเรียนรู้ที่สร้างประสบการณ์จริงในการตื่นรู้ ผ่านกระบวนการ Active Awakening Learning ภายใต้ชื่อ Wake Up EXP Workshop โดยได้ออกแบบกิจกรรม ต่างๆ อาทิ “ดู . ใจ . เรา – See The Oneness”
“เห็น . รักแท้ . ในตัวเธอ – See Your True Love” และ Happy New You เป็นต้น
พร้อมได้เข้าร่วมทีมกับเพื่อนๆ มูลนิธิสหธรรมมิกชน ในการทำงานขับเคลื่อนการเรียนรู้เพื่อร่วมสร้างสังคมแห่งการตื่นรู้ โดยไม่จำกัดภายใต้ศาสนา ความเชื่อรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เพราะเราเชื่อว่าเป้าหมายสูงสุดของทุกเส้นทางในการพัฒนาทางจิตวิญญาณ นั้นป็นสัจจะสากล นั่นคือการเข้าถึงอิสระจากความยึดมั่นตัวตน และเข้าถึงความเป็นหนึ่งเดียวกัน Oneness อันเป็นสัจธรรมของธรรมชาติและสรรพชีวิต
พร้อมกันนี้ ยังเป็นที่ปรึกษาให้กับโครงการที่ได้รับทุนจาก สสส. สำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ ในแผนระบบสื่อและวิถีสุขภาวะทางปัญญา และยังทำงานสื่อสารเพื่อสังคมและการตื่นรู้ในตำแหน่งหัวหน้าครีเอทีฟให้กับทีมสร้างสรรค์เพื่อสังคมน้องใหม่อย่าง PEACE - Creative for Human Value
ความฝันอันสูงสุดของผม คือ ปรารถนาที่จะเห็นเมืองไทยกลายเป็นเมืองพุทธที่แท้ อันประกอบด้วยคนไทยนับหมื่นนับแสนนับล้านได้มีชีวิตอย่างรู้ ตื่น เบิกบาน ด้วยวิถีทางที่เปิดกว้างหลากหลาย เป็นแรงบันดาลใจและเป็นแบบอย่างให้กับชนชาติอื่นทั่วโลก